กี่ทอผ้าและผ้าทออีสาน
เมนู

เทคนิคการทอกี่
        เทคนิคการทอกี่ที่เป็นจุดเด่นของผ้าไหมอีสานคือ การมัดหมี่ และลายขิด ผ้ามัดหมี่ เป็นการทอผ้าไหมหรือผ้าฝ้ายที่เล่นลวดลาย และสีสันโดยการย้อมเส้นไหมให้ด่าง โดยการผูกหรือมัดให้เกิดช่องว่างพื่อไม่ให้สีติดบริเวณที่มัดผ้ามัดหมี่ของอีสานทั่วไปจะมีผ้ามัดหมี่ขาวดำและผ้ามักหมี่สี ส่วนลายผ้ามักหมี่ที่เห็นอยู่โดยทั่วไปนั้นมีลักษณะเป็นรูปเลขาคณิตคือเป็นมุมฉากตัดตรงลายได้แก่ ลายหมี่ขอ หมี่ข้อ หมี่คั่น หมี่โคม หมี่กง หมี่บักจับ ลวดลาย หมี่ที่สายงามคือลาลมักหมี่ของจังหวักสุรินทร์ ซึ่งทำเป็นลายต้นไม้ ลายรูปนก ลายรูปสัตว์ ลาย นกและลายอื่น ๆลายมัดหมี่ที่ถือว่าเป็นแม่ลาย ได้แก่ หมี่ข้อ หมี่โคม หมี่บักจับ หมี่กงน้อย หมี่ดอกแก้ว หมี่ขอและหมี่ใบไผ
        ผ้าขิด เป็นการทอผ้าที่ใช้กรรมวิธีสร้างลวดลายโดยการทอยอเส้นหลักหรือเส้นเครือด้วยไม้แบนปลายเรียวมนแล้วสอดเส้น สานหรือเส้นทอเข้าไปตามร่องไม้ที่ยกเอาไว้แล้วนั้น ความแตกต่างของสีจากเส้นสานและเส้นหลักที่ขัดประสานกันทำให้เกิดเป็นลายรูป แบบต่าง ๆ อย่างคมชัด ขิดหมายถึง การงัดหรือการซ้อนขึ้นลายขิดที่แพร่หลายมีดังนี้ ลายหน่วย ลายดอก ลายขอ หรือขิดขอ ลายกาบ ลายสัตว์

การนำกี่ทอผ้าและผ้าทอประยุกต์ใช้ในศูนย์สารนิเทศอีสานสิรินธร
        ศูนย์สารนิเทศอีสานสิรินธรนำโครงสี่เหลี่ยมของกี่ทอผ้าไป จัดทำเป็นชั้นวางหนังสือโดยใช้พื้นที่ระหว่างเสากี่ด้านยาวเป็นที่วางชั้นหนังสือ โดยตัวกี่ทอผ้าเองทำหน้าที่เป็นครุภัณฑ์ ทางวัฒนธรรมท้องถิ่นด้วย ส่วนการนำผ้าทอมาใช้ในศูนย์สารนิเทศอีสานสิรินธรนั้น กระบวนทอผ้าขั้นตอนสำคัญและผลิตภัณฑ์สิ่งทอผ้าพื้นเมือง ศูนย์ฯ ได้จัดแสดงในรูปแบบนิทรรศการถาวร โดยจัดแสดงไว้ในตู้โชว์และโต๊ะอ่านหนังสือ โดยวิธีจัดนั้นโต๊ะหนังสือสามารถเป็นที่นั่งอ่านหนังสือได้ด้วย และผ้าทอหลายส่วนทำหน้าที่เป็นผ้าปูโต๊ะด้วย

ก่อนหน้านี้

แหล่งข้อมูล
ศูนย์สารนิเทศอีสานสิรินธร

สำนักวิทยบริการ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม