แคนเป็นเครื่องดนตรีสำคัญของชาวอีสาน ทำจากไม้กู่แคน เมื่อเป่าแล้วทำนองเสียงดัง แคนแล่นแคน แล่นแคน แล่นแคน แคนหนึ่งอันเรียกว่าแคนหนึ่งเต้า ส่วนประกอบของแคนมีดังนี้
1. ลูกแคน ลูกแคนคือไม้ไผ่ที่นำมาประกอบเป็นแคน ทำจากไม้ซางซึ่งเป็นพืชตะกูลไม้ไผ่ลำเล็ก ๆ มีปล้องยาว ขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือ นิ้วชี้และนิ้วนางตามลำดับ โดยนำมาลนไฟแล้วดัดให้ตรงขนาดยาวตั้งแต่แปดสิบเซนติเมตรถึงสามเมตร ไม้กู่แคนทุกลำทะลุข้อออกเพื่อให้ลมผ่าน ฝังลิ้นทองเหลืองหรือลิ้นเงินห่างจากปลายข้างบนประมาณ 50-60 เซนติเมตร โดยบริเวณนั้นบากเป็นช่องสี่เหลี่ยมสองช่องห่าง หรือไก้ลกันตามลักษณะของระดับเสียง ตรงกลางของไม้กู่แคนเจาะรูกลมเล็กๆลำละหนึ่งรูเพื่อใช้นิ้วปิดเปิดเวลาบรรเลง เรียกว่ารูนับ รูที่บากอยู่ด้านในเมื้อประกอบเป็นแคนแล้วจะมองไม่เห็นแคนแต่ละดวงจะมีจำนวนลูกแคนไม่เท่ากันขึ้น อยู่กับชนิดของแคน แคนหกมีใม้กู่ แคนสามคู่ แคนเจ็ด มีไม้กู่แคนเจ็ดคู่
2. เต้าแคน คือปล้องตรงกลางแคน มีลักษณะกลมเป็นกระเปาะหัวท้ายสอบมีไว้เพื่อประกอบลูกแคนทุกลูกทำเข้าด้วยกันและหุ้มลิ้นลูกแคนไว้ เต้าแคนถูกเจาะรูกลมเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณหนึ่งเซนติเมตรที่หัวเต้า เพื่อใช้ปากเป่าให้ลมผ่านลิ้นแคนทุกลิ้น ระหว่างเต้าแคนและลูกแคนนำขึ้
สูดมาปิดให้แน่นป้องกันมิให้ลมที่เป่าเข้าไปนั้นรั่วออกมาข้างนอก ไม้ที่นิยมทำเต้าแคน คือไม้ประดู่ไหม ไม้พยุง ไม้แคนหรือไม้ตะเคียน ไม้หนามแท่ง ส่วนมากนิยมใช้ไม้ประดู่ส่วนที่เป็นราก
3. หลาบโลหะ คือแผ่นโลหะบาง ๆ ที่สกัดออกเป็นลิ้นแคนโดยมากใช้โลหะผสมระหว่างทองแดงกับเงิน ถ้าใช้แผ่นเงินบริสุทธิ์หรือทองแดงบริสุทธิ์จะทำให้อ่อนหรือแข็งจนเกินไป แผ่นโลหะแผ่นหนึ่งยาวประมาณสามเซนติเมตร กว้างประมาณ 4 เซนติเมตร และหนาเพียง 2 มิลลิเมตร
4. ขี้สูตหรือชันโรง เป็นชี้ผึ้งเหนียวสีดำที่ได้จากรังของแมลงชนิดหนึ่งตัวเล็กกว่าผึ้งเรียกว่าแมลงขี้สูด คุณสมบัติของขี้ผึ้งชนิดนี้คือเหนียวไม่ติดมือและไม่แห้งกรอบ ขี้สูตใช้ผนึกช่องว่างระหว่างลูกแคนกับเต้าเพื่อไม่ให้ลมที่ผ่านเข้าทางปากรั่วไหลออกจากเต้า
หน้าต่อไป