ฝาตูบ เป็นฝาไม้ไผ่สานไขว้กันเป็นลายอาจสานเป็นลายหวด ลายคุบ ลายวีลายบีงูเหลือม หรืออาจใช้ฝาแขบตองเป็นฝาตูบก็ได้ ฝาแขนตองคือฝาที่ใช้ไม้ใผ่สานเป็นตามมะกอก แล้วปิดทับด้วยใบตองกุงสอดทับซ้อน ๆ กัน แล้วประกบด้วยฝาตามะกอกซ้อนทัพอีกด้านหนึ่งปัจจุบันใบตองกุงหายากต้องไปเก็บในดงเพราะตามโคกเหลือน้อยเต็มที คนจนจึงใช้กระดาษหนังสือพิมพ์หรือ กระดาษถุงปูนแทนพื้นตูบ ใช้ฟากไม้ไผ่หรือแผ่นไม้กระดาษปูลำลองโดยใช้ไม้ไผ่ทั้งลำผ่าชีกแล้วมัดให้ขนานกัน หรือใช้ไม้ไผ่ที่เหลาเรียบมาวางเรียงกันแล้วมัดด้วยเครือซูด เป็นลักษณะคล้ายพื้นแคร่ก็มีตูลเถียงหรือเถียงนาเป็นตูบที่สร้างไว้ในนาสำหรับอาศัยในฤดูทำนาและเก็บเกี่ยว ส่วนประกอบไม่ต่างจากตูบเหย้าแต่อาจมีขนาดเล็กกว่า ตูบผามหรือประรำะพิธี เป็นตูบที่สร้างไว้บริเวณวัด หรือลานกลางหมู่บ้านเพื่อใช้เป็นที่พักชั่วคราวระหว่างประกอบพิธีกรรมหรือทำบุญต่างๆ เช่น ทำบุญเบิกบ้าน บุญกุ้มข้าวไหญ่ และเป็นที่พักชั่วคราว รูปแบบประกอบด้วยบริเวณที่นั่งซึ่งยกพื้นให้สูงจากดินเล็กน้อย แล้วมุงหลังคากันแดดฝนด้วยทางมะพร้าว ไม้ลำปอ หรือผ้า วิธีเชื่อมโครงสร้างแต่ละส่วนใช้หวายหรือเถาวัลย์ หรือลวดหรือตอกมัดอย่างง่าย ด้านข้าเปิดโล่งให้อากาศถ่ายเท
การปลูกสร้างตูบทุกชนิด ตามคตินิยมท้องถิ่นจะมีพิธีบนบอกกล่าวแม่ธรณีซึ่งถือว่าเป็นเจ้าของที่ดินให้ทราบก่อนโดยใช้เครื่องบูชาง่าย ๆ คือคายขันห้าหรือคายขันแปด ซึ่งประกอบด้วยดอกไม้ ธูปเทียน อาหารคาวหวาน ได้แก่ ข้าวเหนียว พริกปลาร้า ข้าวต้มมัด บุหรี่ หมาก พลู คติการปลูกตูบเหย้าไม่แตกต่างจากคติการปลูกเรือนทั่วไป คือ ไม่นิยมสร้างหันหน้าไป ทางทิศตะวันตกเพราะเชื่อว่าเป็นทิศผีตายหรือไม่นิยมสร้างหันหน้าขวางตะวันโดยเชื่อว่าเป็นสิ่วเข็ดขวาง ทำการสิ่งใดไม่เจริญก้าวหน้า
การนำตูบมาประยุกต์ใช้ในศูนย์สารนิเทศอีสานสิรินธร
เดิมตูบเป็นสิ่งก่อสร้างเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัยหลับนอนพักผ่อน ทำงาน ศูนย์สารนิเทศอีสานสิรินธรได้นำตูบมาใช้ประโยชน์เป็นที่นั่งอ่านหนังสือให้บรรยากาศคล้ายกับอ่านหนังสือภายในบ้าน

ก่อนหน้านี้