ลักษณะเด่นของเกวียนอีสาน
ประเทศไทยมีเกวียนใช้ทุกภาค ลักษณะแตกต่างกันบ้างในเรื่องรูปร่างและการตกแต่ง เกวียนอีสานมีรูปร่างงดงาม บอบบาง โดยเฉพาะเกวียนยโสธร การตกแต่งนิยมแกาะสลักลวดลายลงไปตามส่วนประกอบของเกวียนแกะเป็นลายดอกไม้บ้าง ตัวกนกบ้าง ประทุมเกวียนอีสานเป็นงานจักสานไม้ใผ่ สามารถกันแดดฝนได้ดี เวลาไม่ใช้เกวียนก็ถอดประทุมไว้ เกวียนในเขตอีสานใต้เช่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ และศรีสะเกษ ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่เป็นชาวเขมร เกวียนมีลักษณะบอบบางสวยงามกว่าแบบที่พบในเขตอีสานเหนือ เกวียนแบบนี้เรียกว่า ระแทะ ในยามพักแรมมีประทุนเกวียนสวมครอบเรือนเกวียน และมีประตูปิดตรงหน้าเกวียน ประทุมเกวียนแบบนี้เรียกว่า พรวงเกวียน หากใช้บรรทุกสิ่งขอต้องนำประทุมออกแล้วนำกระชุหรือกระโหลงซึ่งสานด้วยไม้ไผ่วางบนเกวียนเพื่อใส่ข้าวของ เกวียนวัวที่พบในกลุ่มแม่น้ำมูล มีลักษณะคล้ายกับระแทะ ที่พบในงานจิตรกรรมโบราณและภาพสลักหินศิลปขอม เกวียนทางภาคเหนือ มีลักษณะเตี้ย สั้นและกว้าง ส่วนการตกแต่งนิยมเขียนลายรูปช้างบ้าง ดอกไม้บ้าง ประดับที่ไม้กั้น ด้านหน้าและหลัง การแกะลวดลายนิยมแกะให้ลึกเป็นลายเส้น พิธีกรรมเพื่อความเป็นสวัสดิมงคลเมื่อใช้เกวียน พิธีกรรมเพื่อความเป็นสวัสดิมงคลเมื่อใช้เกวียน เท่าที่ปรากฎในภาคอีสานมีสองพิธีคือการข่มนางไม้และการสู่ขวัญเกวียน
พิธีข่มนางไม้
พิธีข่มนางไม้มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยให้เจ้าของเกวียนและผู้ใช้เกวียน โดยเชื่อว่าไม้ที่นำมาทำเกวียนมีนางไม้สถิตอยู่ ฉะนั้นเมื่อทำเกวียนเสร็จแล้วก่อนใช้ต้องมีการเหยียบนางไม้ก่อน อุปกรณ์ที่ใช้ในพิธีข่มนางไม้ ได้แก่ขัดห้า ประกอบด้วยดอกไม้ห้าคู่เทียมห้าคู่และฝ้ายผูกแขน ผู้ประกอบพิธีคือภรรยาเจ้าของเกวียน แต่งกายด้วยเสื้อสีขาว ห่มผ้าสะไปสีขาวคล้ายกับผู้สูงอายุในชนบทแต่งตัวไปวัด เริ่มพิธีด้วยการนำคายขันห้ามาตั้งไว้ที่หัวเกวียน แล้วให้แม่บ้านนั่งที่หัวเกวียนใช้เท้าเหยียบหัวเกวียนพร้อมกับท่องมนต์สองบท บทแรงกล่าวขับไสนางไม้
ก่อนหน้านี้ หน้าต่อไป