สถูปในภาคอีสาน
สถูปเป็นคำภาษาสันสกฤตหมายความว่า รวบรวมหรือกองพูนขึ้นไว้ เป็นสิ่งก่อสร้างในพระพุทธศาสนา โดยแบบอย่างของสถาปัตยกรรมเป็นรูปเนินดิน บรรจุสิ่งอันเป็นที่สักการะไว้ภายใน เช่น อัฐิของพระพุทธเจ้าเรียกกันว่า พระธาตุ หรือ พระบรมธาตุ ใช้อัฐหรือหินก่อ เพื่อให้เป็นวัสดุถาวรแทนดินและไม้ นักโบราณคดีเชื่อว่าเดิ่มทีนั้น สถูปมาจากเนินดินฝังศพ ซึ่งมีการก่อฐานก่อฐานล้อมรอบเนินดิน ต่อมากลายเป็นส่วนกลางที่เรียกว่าองค์ระฆังบนเนินดินตั้งแทนที่ฉัตรหรือร่มปักอยู่บนยอด เพื่อแสดงว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สถูปองค์แรกในพระพุทธศาสนาคือสาญจิสถูปในประเทศอินเดีย
ส่วนประกอบสำคัญของสถูป
สถูปโดยทั่วไปประกอบด้วยส่วนสำคัญสามส่วนคือ ส่วนฐาน ส่วนองค์ระฆังและส่วนยอด ส่วนฐาน เป็นบริเวณที่อยู่ล่างสุดของสถูปขึ้นไปมีรูปทรงแตกต่างกันตามความนิยมและความเชื่อของแต่ละยุคแต่ละสมัย สถูปอินเดียโบราณยกชั้นขึ้นเป็นที่สำหรับไว้ให้เดินรอบส่วนองค์ระฆัง เป็นส่วนที่อยู่กลางระหว่างส่วนฐาน และส่วนยอด มีลักษณะรูปแบบแตกต่างกันออกไป สถูปโบราณ นิยมทำทรงกลม ต่อมาได้ยึดสูงขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนยอด ตั้งอยู่เหนือส่วนที่เป็นองค์ระฆังขึ้นไป สถูปโบราณนิยมทำเป็นบัลลังก์และปักฉัตรไว้เหนือบังลังก์
สถูปในดินแดนภาคอีสานของไทยมีมาตั้งแต่สมัยทวราวดี ดังที่ปรากฎในภาพสลักรูปสถูปในใบเสมาหินที่พบตามเมืองโบราณ แถบ
ลุ่มแม่น้ำชีและบริเวณภาคอีสานตอนบน สถูปที่ปรากฎบนใบเสมาหินกับสถูปที่คงอยู่ปัจจุบันมีวิวัฒนาการและช่วงเวลาที่แตกต่างกันมาก กว่า 4-5 ศตวรรษ โดยหน้าที่การใช้งานและการคลี่คลายทางรูปแบบศิลปะแตกต่างกันไป นักโบราณคดีแบ่งสถูปในภาคอีสานตามความเก่าแก่ทางรูปแบบที่ปรากฎก่อนหลังดังนี้
1. สถูปรูปเก่าซึ่งมีเค้าสืบเนื่องจากปราสาทก่ออิฐของขอม
2. สถูปที่ได้แบบอย่างจากภาพสลักนูนในใบเสมาหินซึ่งเป็นรูปหม้อน้ำมียอดแหลมไดแก่สถูปทรง สูง เช่น พระธาตุพนม และพระธาตุหลวงนครเวียงจันทร์ และสถูปทรงต่ำผายออกด้านข้างแบบพระธาตุศรีสองรัก
3. สถูปที่ได้แบบจากล้านนา
หน้าต่อไป