สถูปที่ปรากฎในดินแดนภาคอีสานมีดังนี้
1. กลุ่มสถูปแบบพระธาตุพนม และพระธาตุเชิงชุม มีลักษณะดังนี้คือ ฐานพระธาตุพนม เป็นสถูปฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัสยาวด้านละสิบเมตรมีฐานซ้อนกันสองชั้น ประดับด้วยภาพสลักอิฐ มีซุ้มประตูสี่ทิศทั้งสองชั้นจากฐานพื้นดินขึ้นไปถึงบัวถลาของฐานชั้นแรก ประดับด้วยแผ่นอิฐสีแดงเป็นลายรูปกษัตริย์สมัยโบราณ รูปสัตว์ กนกลายก้านขดเป็นลายใบผักกูดทั้งสี่ด้าน เหนือประตูทั้งสี่ทิศเป็นซุ้มทรงบายศรี ตั้งแต่บัวล่างไปถึงบัวบนของฐานชั้นที่สองทำเลียนแบบชั้นแรก การซ่อมแซมส่วนฐานองค์พระธาตุในชั้นหลัง ๆ ได้โบกปูนทัพลวดลายของเก่าทั้งสี่ด้านมีกระเบื้องถ้วยชามติดประดับเป็นดอกดวง องค์ระฆังเป็นองค์ระฆังสี่เหลี่ยมขึ้นไปจนสุดยอด หัวบัวเป็นทรงขวดแก้วองค์ระฆังเรียวรัดขึ้นไปตามลำดับเฉพาะองค์ระฆังสี่เหลี่ยมเดิมที่อยู่ในทรงเตี้ยป้อมองค์ระฆังใหม่ที่สวมอยู่ภายนอกทรงเรียวเหมือนขวดแก้วประดับลวดลายพุ่มข้าวบัณฑ์ดูเป็นช่อลดหลั่นจนถึงยอด ยอดไม่มีบังลังก์ ทำเป็นชั้นในฝังสี่เหลี่ยมจัตุรัส องค์ระฆังสูงเรียวเป็นชั้น ๆ ขึ้นไปและเหนือสุดเป็นฉัตรทองคำ องค์พระธาตุพนมปรากฎลักษณะนี้จนกระทั่งล้มลงเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2518 ลักษณะเด่นของสถูปแบบนี้ อยู่ที่การครอบปรางค์ขอมเอาไว้ ความนิยมในการสร้างสถูปแบบพระธาตุพนม มีมาตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 21 ส่วนพระธาตุเชิงชุมนั้นเช่นเดียวกัน คือเป็นเจดีย์อิฐ สร้างตามแบบพื้นเมืองคล้ายพระธาตุพนมภายในมีปรางค์ของขนาดเล็กก่อด้วยศิลาแลง มีจารึกภาษาขอมโบราณอยู่บนหลืบประตูด้านขวา อักษรที่ใช้ในจารึกมีอายุอยู่ราวพุทธศวรรษที่ 16
2. กลุ่มสถูปแบบพระธาตุศรีสองรัก พระธาตุศรีสองรักมีลักษณะสถูปเป็นดังนี้ ฐานชั้นล่างสุดเป็นฐานเขียงในผังสี่เหลี่ยมจัตุรัส กว้างยาวด้านละ 11 เมตร ซ้อนด้วยฐานสี่เหลี่ยมย่อมุมและเส้นลวด ต่อด้วยบัวคว่ำเส้นลวดแล้วจึงเป็นเส้นหวายผ่าซีกขนาดใหญ่ หน้ากระดานมีกาบรูปกรีบบัวเล็ก ๆ ที่มุมจากส่วนนี้ขึ้นไปเป็นชุดฐาน บัวที่ประกอบด้วยบัวคว่ำซ้อนกันสองชั้นคั่นกลางด้วยเส้นลวดลายประดับกลางห้องไม้ด้วยลูกแก้วอกไก่ เหนือส่วนที่เป็นท้องไม้ขึ้นไปทำเป็นบังหงายซ้อนกันสองชั้น ลักษณะบัวคว่ำลาดเชื่อมกับส่วนบัวหงายซ้อนกันสองชั้น คั่นกลางด้วยเส้นลวด และหน้ากระดาษรองรับปากองค์ระฆัง องค์ระฆังมีผังรูปสี่เหลียมจัตุรัสที่มุมทั้งสี่มีกาบรูป นกขมวดหัวเป็นวงก้นหอยและบากลายสามหยักองค์ระฆังมีลักษณะคล้ายดอกบัวตูม แต่อยู่ในผังสี่เหลี่ยมจัตุรัสผายออกตอนล่างเรียงเข้าตวัดมุมบนงอมขึ้นเล็กน้อย ยอดทำต่อจากองค์ระฆังขึ้นไปมีลูกแก้วอกไก่ประดับที่กลางท้องไม้ ด่อด้วยส่อนรองรับปลีที่มีลัษณะม้วนหัวเป็นลักษณะตัวเหงา หันหัวเข้าด้านในทั้งสี่มุม ถัดจากส่วนนี้เป็นปลีเรียวแหลมในผังกลม ส่วนฐานผังสี่เหลี่ยมจัตุรัสและฉัตร แล้วจึงเป็นเม็ดน้ำค้างและยอดสุด สถูปองค์นี้ยอดได้รับการบูรณะมากกว่าหนึ่งครั้ง ส่วนองค์สถูปใช้ปูนขาวทาทับเอาไว้ใกล้บริเวณสถูป มีจารึกอักษรธรรมเกี่ยวกับการร่วมกันสร้างองค์พระธาตุของอาณาจักรล้านช้างและอยุธยา
ก่อนหน้านี้ หน้าต่อไป