บั้งไฟ
เมนู

ความหมายของบั้งไฟ
          พจนานุกรมภาคอีสาน - ภาคกลาง ฉบับปณิธาน สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (ดิสสมหาเถระ) ให้ความหมายของบั้งไฟไว้ว่า หมายถึงจรวดชนิดหนึ่งมีหางยาวจุด ทะยานขึ้นบนท้องฟ้า มีขนาดต่าง ๆ กันเช่น บั้งไฟหมื่น บั้งไฟแสนเป็นต้น บางครั้งมีผู้เรียกร้องว่าบ้องไฟที่ถูกควรจะเป็นบั้งเพราะบั้งมายถึงส่งที่เป็นกระบอก เช่นบั้งบทิง เป็นกระบอกใส่น้ำดื่ม บั้งข้าวหลาม เป็นกระบอกบรรจุ ข้าวเหนียวใส่น้ำกะทิแล้วเผาให้สุกเป็นต้น

องค์ประกอบของบั้งไฟ
          บั้งไฟมีรูปทรงคล้ายเครื่องดนตรีพื้นบ้านชนิดหนึ่ง เรียกว่าโหวด บั้งไฟแบบดั้งเดิมใช้ลำไม้ไผ่มามัดเป็นลำดับ บั้งไฟ ใช้มีดตัดส่วนบั้งไฟให้หัวเป็นปากฉลาม เมื่อจุด บั้งไฟให้พุ่งขึ้นลงจากฟ้า ปากฉลามปะทะกับแรงลมทำให้เกิดเสียงดังโหยหวนคล้ายเสียงโหวด จากรูปทรงบั้งไฟโหวดนี้เองทำให้ช่างทำบั้งไฟ ถือเป็นโครงสร้างของบั้งไฟต่อมา
          บั้งไฟแต่ละลำประกอบด้วยส่วนสำคัญ สามส่วนคือ เลา หางและลูกบั้งไฟ ดังมีรายละเอียดต่อไปนี้
               1. เลาบั้งไฟ เลาบั้งไฟคือส่วนประกิบที่ทำหน้าที่บรรจุดินปืน มีลักษณะเป็นรูปทรงกระบอกกลมยาว มีความยาวประมาณ 1.5 - 7 เมตร ทำด้วยลำไม้ไผ่เล้ว ใช้ร้วไม้ไผ่ (ตอก) ปิดเป็นเกลียวเชือกพันรอบเลาบั้งไฟ อีกครั้งหนึ่งให้แน่น และใช้ดินปืนที่ชาวบ้านเรียกว่า "หมือ" อัดให้แน่นลงไปในเลาบั้งไฟ ด้วยวิธีใช้สากตำ แล้วเจาะรูสายชนวน เสร็จแล้วนำเลาบั้งไฟ ไปมัดเข้า กับส่วนหางบั้งไฟ ในสมัดต่อมานิยมนำวัสดุอื่นมาใช้เป็นเลาบั้งไฟแทนไม้ไผ่ ได้แก่ ท่อเหล็ก ท่อพลาสติก เป็นต้น เรียกว่าเลาเหล็กซึ่งสามารถอัดดินปืนได้แน่น และมีประสิทธิภาพในการยิงได้สูงกว่า


หน้าต่อไป

แหล่งข้อมูล
ศูนย์สารนิเทศอีสานสิรินธร

สำนักวิทยบริการ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม